MT4 กับ MT5 แตกต่าง หรือ เหมือนกัน ?
แพลตฟอร์มเทรด MetaTrader ถือเป็นหนึ่งแพลตฟอร์มยอดฮิตในหมู่นักเทรด Forex และ CFD จากทั่วโลก MetaTrader4 และ Metatrader5 มีการทำงานที่ใกล้เคียงกัน แต่ก็ยังมีการใช้งานบ้างจุดที่แตกต่างกัน สำหรับบทความนี้ STARTRADER จะพาเทรดเดอร์ทุกท่านมาเจาะลึกถึงการใช้งาน ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร !?
MetaTrader 4 คือ
แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอันหนึ่ง เปิดตัวในปี 2548 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการซื้อขายฟอเร็กซ์โดยเฉพาะ แต่แพลตฟอร์มนี้ยังสามารถใช้เพื่อซื้อขายสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์ผ่าน CFD ได้
MT4 ได้รับความนิยมเนื่องจากมีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย ใช้งานง่าย และช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งอินเทอร์เฟซได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือการซื้อขายขั้นสูงที่ช่วยให้เทรดเดอร์ใช้กลยุทธ์ที่พวกเขาชื่นชอบและสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติของตนเองได้ MT4 ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์หลายๆ ท่านนิยมใช้
MetaTrader 5 คือ
MT5 เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า MT4 และเข้าถึงการซื้อขายตราสารในตลาดการเงินได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิทัล เป็นการเทรดรูปแบบ CFD
MT5 มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์พื้นฐานและทางเทคนิค สัญญาณการซื้อขาย การคัดลอกการซื้อขาย และ Expert Advisors ที่จะทำการซื้อขายให้เทรดเดอร์อัตโนมัติ นอกจากนี้ MT5 ยังสามารถโอนเงินระหว่างบัญชี เทรดเดอร์สามารถแชทกับเทรดเดอร์กันเองผ่านในระบบ พร้อมมีการอัพเดทเหตุการณ์ตลาดให้ได้ติดตามตลอดเวลา
MT 5 จึงได้รับความนิยมอย่างมาก การจัดการตำแหน่งของ MT4 บางส่วนไม่ได้เป็นไปตามกฎระเบียบการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์บางแห่ง MT5 จึงถูกสร้างขึ้นโดยให้แตกต่างกันเพื่อให้เป็นไปตามกฎเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็มีฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มมากมายให้กับแพลตฟอร์ม
ความแตกต่างระหว่าง MT4 และ MT5
สำหรับ STARTRADER มีทั้ง MT4 และ MT5 ให้บริการสำหรับเทรดเดอร์ ในบทความนี้จะเปรียบเทียบให้เทรดเดอร์เห็นกันชัดเจนมาขึ้นถึงความแตกต่างของทั้งสองแพลตฟอร์ม
MetaTrader 4 | MetaTrader 5 |
เหมาะสำหรับตลาด Forex, CFDs | เหมาะสำหรับหลายตลาด Forex, Futures, Stocks, Bonds, Options |
ใช้ภาษา MQL4 | ใช้ภาษา MQL5 |
ประเภทบัญชี : Standard Cent บัญชี Standard บัญชี Pro Raw Spread Zero | ประเภทบัญชี : บัญชี Standard บัญชี Pro Raw Spread Zero |
31 Graphical Objects | 44 Graphical Objects |
30 Technical indicators | 38 Technical indicators |
8 Timeframes | 21 Timeframes |
ไม่มี Technical support | มี Technical support |
ไม่มีสัญญาณการเทรดและระบบคัดลอกการเทรด | มีสัญญาณการเทรดและระบบคัดลอกการเทรด |
รองรับการทดสอบย้อนหลัง | รองรับการทดสอบย้อนหลังที่หลากหลาย |
รองรับ Expert Advisors แต่ไม่สามารถใช้ร่วมกับ MT5 ได้ | รองรับ Expert Advisors แต่ไม่สามารถใช้ร่วมกับ MT4 ได้ |
เทรดเดอร์สามารถปรับแต่งอินเทอร์เฟซได้ตามต้องการ | สามารถปรับแต่งอินเทอร์เฟซได้ตามต้องการ เพิ่มเติมคือมีกรอบเวลา |
สกุลเงินในบัญชี : EUR, USD, GBP, JPY | สกุลเงินในบัญชี : EUR, USD, GBP, JPY |
Pending Order มี 4 รูปแบบ ได้แก่ buy stop, buy limit, sell limit, sell stop | Pending Order มี 6 รูปแบบ ได้แก่ buy stop, buy limit, buy stop-limit, sell limit, sell stop, sell stop-limit |
4 Order Execution | 3 Order Execution |
ไม่มี Depth of Market | มี Depth of Market |
มีบัญชี Demo | มีบัญชี Demo |
รองรับกลยุทธ์ซื้อขายที่หลากหลาย | การซื้อขายโดยรวมไม่เหมาะสำหรับการป้องกันความเสี่ยง |
การรายงานเป็นตาราง | การรายงานเป็นกราฟ (HTML5) + Tables |
ประเภทยอดการทำธุรกรรม : ยอดคงเหลือ เครดิต | ประเภทยอดการทำธุรกรรม : ยอดคงเหลือ เครดิต โบนัส การแก้ไข คอมมิชชั่น ตัวแทน ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่าย |
มี Hedging | มี Hedging รวมถึง Netting |
มีระบบอีเมล | มีระบบอีเมล |
ไม่มีปฏิทินเศรษฐกิจ | มีปฏิทินเศรษฐกิจ |
ไม่มี Community chat | มี Community chat |
ไม่มีโอนเงินระหว่างบัญชี | มีโอนเงินระหว่างบัญชี |
ให้บริการ 39 ภาษา | ให้บริการ 52 ภาษา |
ควรเลือกแบบไหน ?
ขี้นอยู่กับความชอบและความถนัดของแต่ละเทรดเดอร์ หากท่านคือมือใหม่สามารถเริ่มจากการใช้เครื่องมือที่ใช้ง่ายและไม่ซับซ้อนอย่าง MT4 หรือท่านใดที่อยากเข้าถึงเครื่องมือที่หลากหลาย สามารถทำการเทรดด้วย MT5
การซื้อขายอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสําหรับทุกคน