สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
ในการเทรดนั้น ความรู้พื้นฐานถือเป็นสิ่งสำคัญค่อนข้างมาก เนื่องจากหากเราเรามีความรู้พื้นฐานที่ไม่มากพอ เราก็จะมองข้ามสิ่งที่สำคัญไป แล้วส่งผลทำให้ไม่สามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงความรู้ที่สำคัญ 5 อย่าง ที่เทรดเดอร์โดยทั่วไปอาจจะมองข้ามไป เพื่อที่เราสามารถจะได้ความรู้พื้นฐานที่จำเป็นมากยิ่งขึ้น
BID และ ASK
ราคาของสินค้า จะมี 2 ประเภทคือ ราคา BID และ ราคา ASK โดยราคา BID คือ ราคาเสนอซื้อ ในขณะที่ ราคา ASK คือ ราคาเสนอขาย ทั้งนี้ หากเราต้องการจะ OPEN BUY กับ CLOSE SELL จะต้องใช้ราคา ASK ในขณะที่ หากเราต้องการจะ OPEN SELL กับ CLOSE BUY ก็จะต้องใช้ราคา BID
ตัวอย่างเช่น
กรณีเปิดออเดอร์
หากเราต้องการ OPEN BUY เราจะได้ BUY ที่ราคา 1870.20 แต่หากเราต้องการ OPEN SELL เราก็จะ OPEN SELL ได้ที่ราคา 1870.00
กรณีปิดออเดอร์
หากเราถือออเดอร์ BUY แล้วต้องการจะปิดออเดอร์ BUY เราจะปิดได้ที่ราคา 1870.00 แต่หากเราถือออเดอร์ SELL แล้วต้องการปิดออเดอร์ SELL เราก็จะปิดได้ที่ราคา 1870.2
ราคา Chart ใน MT4
โดยทั่วไปแล้ว ในโปรแกรม MT4 เราจะสามารถดูราคาของสินค้าใน ชาร์ตได้ โดยมีทั้งราคา ณ ตอนนั้น และ ราคา OPEN, HIGH, LOW, CLOSE ซึ่งหากเราต้องการดูราคา OPEN,HIGH LOW และ CLOSE ของกราฟแท่งใด เราก็สามารถใช้เมาท์ชี้ไปที่กราฟแท่งนั้น แล้วเปิด Function ที่ชื่อว่า Data Window ขึ้นมา ทั้งนี้ ราคาที่แสดง จะเป็นราคา BID เท่านั้น กล่าวคือ หากเราอยากรู้ว่าราราคา ASK เป็นเท่าไหร่ เราก็จะต้องบวกค่าสเปรดเข้าไปด้วย
ราคาที่แสดงอยู่ฝั่งขวา คือราคา BID เช่นเดียวกัน
ราคาที่แสดงล้วนแล้วแต่เป็นราคา BID เช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่น หากสเปรด ณ ขณะนั้น อยู่ที่ 20 Point ในขณะที่ราคาที่แสดงใน Data Window เป็นไปตามรูปด้านบน โดยอย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ราคาที่แสดง เป็นราคา BID ฉะนั้น หากเราอยากรู้ว่าราคา ASK เป็นเท่าไหร่ ก็ต้องทำการบวกค่าสเปรดเข้าไป 20 Point ทำให้ราคา OPEN =1875.17, HIGH =1890.44, LOW =1859.11 และ CLOSE =1861.86
ปันผลของหุ้น และ INDEX
ตามปกติแล้ว เวลาที่เราทำการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เราจะได้รับเงินปันผล ในกรณีที่หุ้นตัวนั้นถึงวันจ่ายปันผล ซึ่งเวลาที่เราทำการเทรดหุ้นสหรัฐ หรือ เทรด INDEX ของประเทศต่างๆ ในโปรแกรม MT4 เราก็จะได้รับเงินปันผลเช่นเดียวกัน หากเราถือออเดอร์ BUY ถึงช่วงเวลาที่จ่ายเงินปันผล แต่ในทางกลับกัน หากเราถือออเดอร์ SELL เราก็จะต้องเสียเงินปันผลด้วย ซึ่งค่าเงินปันผลที่ได้รับ หรือ ต้องจ่าย จะแสดงในช่องค่า SWAP ทั้งนี้ หากเราต้องการทราบว่าเงินปันผลของสินค้าแต่ละตัวจะมีการคิดคำนวนวันใด และ จะต้องจ่ายเมื่อไหร่ เราก็สามารถขอตารางจากเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าของทางโบรกเกอร์ได้
การ Roll Over ของผลิตภัณฑ์ Future
ปกติผลิตภัณฑ์ Future ที่เทรดกันในตลาด จะมีวันหมดอายุ ซึ่งเมื่อถึงวันหมดอายุ ออเดอร์ที่เรายังถืออยู่ ก็จะถูกปิดโดยอัตโนมัติ ซึ่งหากเทรดเดอร์ทำการเปิดออเดอร์ในสินค้าที่เป็น Future ก็จะถูกปิดออเดอร์ด้วยเช่นกัน แล้วก็จะมีการเปิดออเดอร์ใหม่ให้โดยอัตโนมัติในราคาของสัญญาใหม่ ทำให้ราคาที่เข้าออเดอร์ของสินค้าที่ Roll Over จะมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะมากขึ้นหรือน้อยลงก็ขึ้นอยู่กับว่าราคาของสินค้าในสัญญาณใหม่ มากกว่าหรือน้อยกว่า ราคาที่ปิดออเดอร์ของสัญญาก่อนหน้า
ECN Account และ Cent Account
ECN Account
คือ บัญชีที่มีค่าสเปรดต่ำกว่าบัญชี Standard แต่ในขณะเดียวกัน ก็มี ค่าคอมมิชชั่นที่ USD 7 อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมค่าสเปรด และ ค่าคอมมิชชั่นเข้าด้วยกันแล้ว ต้นทุนการเทรดก็คงอยู่ต่ำกว่าบัญชี Standard อยู่ดี
CENT ACCOUNT
บัญชี Cent เป็นบัญชีที่เงินในพอร์ตจะแสดงเป็นหน่วยเซนต์ ในขณะที่ Contract Size ในพอร์ตยังเท่าเดิม เพราะฉะนั้นหากเติมเงินในพอร์ตเท่ากันเงินในพอร์ตเซนต์ก็จะมีจำนวนตัวเลขมากว่าพอร์ตปกติ 100 เท่า ทำให้ลูกค้าสามารถใช้เงินในการเทรดน้อยลงได้ เช่น สมมติลูกค้าเติมเงินเข้ามา USD 100 เงินในบัญชี CENT จะแสดงที่ USC 10,000 เพราะฉะนั้น พอร์ตเซนต์จะเหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการใช้เงินจำนวนน้อยมากกว่า
*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด