ในโลกของการลงทุนและการเทรด หลายคนอาจเคยพบกับความท้าทายในการตัดสินใจว่าจะ “ถือ” หรือ “ปล่อย” สินทรัพย์ในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน การรักษากำไรที่ทำได้พร้อมกับลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเป็นเป้าหมายสำคัญที่นักลงทุนส่วนใหญ่มุ่งหวัง และหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยตอบโจทย์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ Trailing Stop
Trailing Stop เป็นคำสั่งการหยุดขาดทุนที่ไม่เพียงแต่ช่วยจำกัดการสูญเสียในกรณีที่ราคาตลาดปรับตัวสวนทาง แต่ยังสามารถปรับตามราคาตลาดที่เคลื่อนที่ในทิศทางที่คุณได้กำไร ซึ่งทำให้นักลงทุนมีโอกาส “ล็อกกำไร” ที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องคอยปรับจุดหยุดขาดทุนด้วยตัวเอง
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก:
ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่นักเทรดไม่ควรมองข้าม ตัวช่วยช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดได้อย่างมั่นใจ
คำสั่ง Trailing Stop คือคำสั่ง Stop-loss ชนิดหนึ่งที่ติดตามตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติหากตลาดปรับตัวสูงขึ้น โดยมุ่งหวังที่จะปกป้องกำไรและจำกัดการขาดทุน คำสั่งนี้จะยังคงอยู่ที่เดิมหากตลาดปรับตัวลดลง และจะปิดตำแหน่งของคุณหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ
โดยจะตั้งคำสั่งหยุดขาดทุนที่เปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงินดอลลาร์ที่กำหนดจากราคาตลาด เมื่อราคาเพิ่มขึ้น คำสั่งหยุดขาดทุนจะเลื่อนขึ้นตามไปด้วย ในทางกลับกัน หากราคาลดลง คำสั่งหยุดขาดทุนจะยังคงนิ่งอยู่ คำสั่งนี้จะช่วยให้การซื้อขายยังคงเปิดอยู่ตราบเท่าที่ราคายังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เอื้อต่อผู้ซื้อขาย โดยจะปิดโดยอัตโนมัติหากตลาดเปลี่ยนทิศทางตามเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนที่กำหนด โดยพื้นฐานแล้ว Trailing Stop Loss จะล็อกกำไรไว้ในขณะที่บรรเทาการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่สำคัญสำหรับนักลงทุน
Trailing Stop Loss ทำงานโดยการปรับตามราคาตลาดของสินทรัพย์หลักการทำงานคือ เมื่อราคาตลาดของสินทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น ระดับหยุดขาดทุน (Stop Price) จะปรับตามในระยะที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งมักจะกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงิน แต่หากราคาตลาดลดลง ระดับหยุดขาดทุนจะยังคงอยู่ที่เดิม กลไกนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถรักษากำไรสูงสุดได้โดยไม่เสี่ยงต่อการที่ราคาสินทรัพย์จะตกต่ำกว่าระดับหยุดขาดทุนที่ตั้งไว้
จุดสำคัญในการทำงานของ Trailing Stop Loss
คุณสมบัติของ Trailing Stop Loss
Trailing Stop Loss เป็นกลยุทธ์ที่ผสมผสานระหว่าง ความยืดหยุ่น และ การป้องกันความเสี่ยง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:
สมมติว่าคุณซื้อหุ้นของ Alphabet Inc. (GOOG) ที่ราคา $100 โดยพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของราคาก่อนหน้านี้ คุณสังเกตเห็นว่าราคามักจะปรับฐาน (Pullback) ลงประมาณ 5% ถึง 8% ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ ข้อมูลการเคลื่อนไหวนี้สามารถช่วยกำหนดระดับเปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมสำหรับการตั้ง Trailing Stop
ถ้าคุณเลือกตั้ง Trailing Stop ไว้ที่ 3% หรือแม้แต่ 5% ก็อาจจะ “แคบเกินไป” เพราะการปรับฐานเล็กน้อยมักจะเกินกว่าระดับนี้ ซึ่งอาจทำให้คำสั่งหยุดขาดทุนถูกใช้งานก่อนที่ราคาจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
แต่หากตั้งที่ 20% ก็จะ “กว้างเกินไป” เพราะจากแนวโน้มล่าสุด การปรับฐานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6% และใหญ่สุดใกล้เคียง 8%
ระดับที่เหมาะสม อาจอยู่ที่ 10% ถึง 12% เพราะจะช่วยให้การซื้อขายมีพื้นที่สำหรับการเคลื่อนไหวของราคา แต่ยังช่วยให้ออกจากการซื้อขายได้เร็ว หากราคาลดลงเกิน 12% การลดลงระดับนี้ถือว่ามากกว่าการปรับฐานทั่วไป ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม (Trend Reversal) ไม่ใช่แค่การปรับฐานธรรมดา
ตัวอย่าง:
หากคุณตั้ง Trailing Stop ไว้ที่ 10% โบรกเกอร์จะส่งคำสั่งขายหากราคาลดลง 10% จากราคาที่คุณซื้อ นั่นคือ $90 หากราคาหลังจากที่คุณซื้อไม่ได้เพิ่มขึ้นจาก $100 เลย คำสั่งหยุดขาดทุนจะยังคงอยู่ที่ $90
แต่ถ้าราคาขยับขึ้นไปที่ $101 คำสั่งหยุดขาดทุนของคุณจะเลื่อนขึ้นไปที่ $90.90 ซึ่งต่ำกว่าราคาปัจจุบัน 10% หากราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง $125 โบรกเกอร์จะส่งคำสั่งขายหากราคาลดลงมาที่ $112.50 ซึ่งต่ำกว่าจุดสูงสุด $125 อยู่ 10%
และหากราคาลดลงจาก $125 โดยไม่กลับขึ้นไป คำสั่งหยุดขาดทุนจะคงอยู่ที่ $112.50 และเมื่อราคาลดลงถึงระดับนี้ โบรกเกอร์จะส่งคำสั่งขายให้คุณทันที
ข้อดีของคำสั่ง Trailing Stop
ข้อเสียของคำสั่ง Trailing Stop
แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่กลยุทธ์ Trailing Stop Loss ก็มีข้อเสียบางประการที่เทรดเดอร์ควรพิจารณา และอาจไม่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การซื้อขาย ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นได้แก่:
Trailing Stop Loss จึงควรถูกใช้อย่างรอบคอบและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์การซื้อขายและเป้าหมายการลงทุนของแต่ละบุคคล
การซื้อขายอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสําหรับทุกคน
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ เพื่อให้ลูกค้าได้ยกระดับประสบการณ์เทรดให้ดียิ่งขึ้น เราจะมีการกระชับการแสดงข้อมูลย้อนหลังในบัญชี Cent ทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์ MT4 Live 1 server (STARTRADERFinancial-Live), Live 2 server (STARTRADERFinancial-Live2) และ…
เคยซื้อประกันโทรศัพท์หรือสั่งจองเครื่องเล่นเกมล่วงหน้าบ้างไหม? เชื่อหรือไม่ แนวคิดเหล่านี้คล้ายกับการซื้อขายออปชันมาก มาดูกันชัดๆ การซื้อขายออปชันอาจดูซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วก็เป็นเพียงอีกวิธีหนึ่งในการเดิมพันการเคลื่อนไหวของตลาด จินตนาการถึงเครื่องมือที่ช่วยให้คุณทำกำไรได้ไม่ว่าราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง นั่นคือสิ่งที่ออปชันสามารถทำได้ — ถึงแม้ว่าประมาณ 30 ถึง 35% ของออปชันจะหมดอายุโดยไม่มีมูลค่า…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ เรามีความยินดีที่จะประกาศว่า STARTRADER จะเปิดตัวคู่เงินฟอเร็กซ์ใหม่ในวันที่ 21 เมษายน 2025 เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ลงทุนที่หลากหลายมากขึ้นในพอร์ต โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่: สัญลักษณ์คำอธิบายขนาดสัญญาล็อตขั้นต่ำล็อตสูงสุดเวลาซื้อขาย (GMT+3)USDILSUS dollar vs Israeli Shekel100000 0.01100จันทร์-พฤหัส: 00:01-23:58 ศุกร์: 00:01-23:57 *วันที่และเวลาที่ระบุคือ GMT+3 (เวลาของเซิร์ฟเวอร์ MT5) ขอเรียนให้ทราบว่าข้อมูลด้านบนอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดอ้างอิงตาม MT4/MT5 เพื่ออัปเดตข้อมูลเสมอ …
Dear Valued Client, We are pleased to inform you that STARTRADER has updated the order…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ เพื่อให้ลูกค้าได้ยกระดับประสบการณ์เทรดให้ดียิ่งขึ้น เราจะมีการกระชับการแสดงข้อมูลย้อนหลังในบัญชี Cent ทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์ MT4 Live 1 (STARTRADERFinancial-Live) และ Live 4 (STARTRADERFinancial-Live4) ในวันที่ 19…
เรียนลูกค้า: เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์เทรดที่ดียิ่งขึ้น STARTRADER จะมีการอัปเกรดระบบพอร์ทัลลูกค้าและแพลตฟอร์ม MT ตามกำหนดการดังต่อไปนี้: พอร์ทัลลูกค้า การอัปเกรดจะเริ่มตั้งแต่เวลา 04:00 (GMT+3) ในวันที่ 19 เมษายน 2025 และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันเดียวกัน…