Knowledge Intermediate

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำการ Hedging

กลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรดนั้นมีอยู่มากมาย โดยเทรดเดอร์สามารถเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ซึ่งในปัจจุบันกลยุทธ์หนึ่งที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมก็คือกลยุทธ์ Hedging เนื่องจากเทรดเดอร์มักไม่ค่อยอยากจะปิดออเดอร์ที่ขาดทุน ทำให้มักจะมีการ Hedging ไว้ ทั้งนี้ ในบทความนี้ ทาง Startrader จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ Hedging พร้อมอธิบายถึงข้อดี และ ข้อเสียให้เข้าใจกัน

คลิกที่รูปภาพ เพื่อเข้าดูวิดีโอ

การ Hedging คือการเปิดออเดอร์ BUY และ SELL  ในสินค้าเดียวกัน เพื่อล็อคกำไร หรือ ขาดทุน ยกตัวอย่างเช่น เรา BUY 1 LOT และ  SELL 1 LOT ใน XAUUSD หรือ การที่เรา BUY และ SELL 1 LOT ใน GBPJPY เป็นต้นอย่างไรก็ตาม การ Hedging อาจเป็นลักษณะของการ Hedging บางส่วนก็ได้เช่น เรา BUY XAUUSD 1 LOT  ในขณะที่ ทำการ SELL XAUUSD เพียง 0.5 LOT ก็ได้ ซึ่งหากเป็นลักษณะนี้ก็จะเรียกว่าเป็นการ  Hedging บางส่วน ทั้งนี้การ Hedging มักจะทำไปเพื่อล็อคการขาดทุนมากกว่าล็อคกำไร โดยมักจะเกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์ไม่ต้องการขาดทุนเพิ่มขึ้น

ข้อดีของการ Hedging

1.ช่วยรักษากำไร หรือ ขาดทุนของพอร์ต ไม่ให้รับความเสี่ยงจากการขึ้น หรือ ลงของราคา เพราะจะเป็นการหักล้างกำไร และ ขาดทุนของกันและกัน

ตัวอย่างที่ 1 หากเราทำการ BUY XAUUSD 1 LOT ต่อมาได้กำไร USD 1,000 เราอาจจะทำการเปิด SELL XAUUSD 1 LOT เพื่อล็อคกำไรดังกล่าว เนื่องจาก หากราคาขึ้นต่อไป ก็จะได้กำไรจากออเดอร์ BUY แต่ก็จะขาดทุนจากออเดอร์ SELL ด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน หากราคาลงต่อไป ก็จะได้กำไรจากออเดอร์ SELL แต่ก็จะขาดทุนจากออเดอร์ BUY ด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้หักล้างกันพอดี กำไรในพอร์ตจึงไม่ลดลง และ ไม่เพิ่มขึ้นจากการ Hedging ดังกล่าว

ตัวอย่างที่ 2 หากเราทำการ BUY XAUUSD 1 LOT ต่อมาขาดทุน USD 1,000 เราอาจจะทำการเปิด SELL XAUUSD 1 LOT เพื่อล็อคขาดทุนดังกล่าว เนื่องจาก หากราคาขึ้นต่อไป ก็จะได้กำไรจากออเดอร์ BUY แต่ก็จะขาดทุนจากออเดอร์ SELL ด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน หากราคาลงต่อไป ก็จะได้กำไรจากออเดอร์ SELL แต่ก็จะขาดทุนจากออเดอร์ BUY ด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้หักล้างกันพอดี กำไรในพอร์ตจึงไม่ลดลง และ ไม่เพิ่มขึ้นจากการ Hedging ดังกล่าว

2.ช่วยรักษา Balance ในพอร์ต อันทำให้จิตวิทยาการเทรดดีขึ้น เนื่องจากการ Hedging เป็นการล็อคกำไร และ ขาดทุนโดยไม่ต้องทำการปิดออเดอร์ ฉะนั้น Balance จึงไม่เพิ่ม และ ไม่ลดจากการ Hedging

ข้อเสียของการ Hedging

1.ทำให้ติดนิสัยไม่มองการขาดทุนตามความเป็นจริง เนื่องจากในกรณีที่พอร์ตของเราขาดทุน ต่อมาเราทำการ Hedging ไว้ เทรดเดอร์บางส่วนอาจจะคิดว่าพอร์ตยังไม่ขาดทุนเนื่องจากยังไม่ปิดออเดอร์ ทำให้ Balance ในพอร์ตไม่ลดลง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การจะดูว่าเงินในพอร์ตของเราเหลือเท่าไหร่ จะต้องดูที่ค่า Equity ในพอร์ต ไม่ใช่ค่า Balance แต่อย่างใด

2.ทำให้พอร์ตอาจเกิดการขาดทุนเพิ่มขึ้นได้จากการถ่างของสเปรด เนื่องจากแม้ว่าการ Hedging จะทำให้พอร์ตไม่ขาดทุนเพิ่มขึ้น จากการที่ราคาสินค้าเคลื่อนที่ขึ้น หรือ ลง แต่การ Hedging ก็มีความเสี่ยงจากการถ่างของสเปรด โดยหาสเปรดถ่างมากขึ้น ก็จะทำให้จำนวนการขาดทุนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

การหาขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการถ่างของสเปรด

ในกรณีที่เราต้องการจะรู้ว่าการที่สเปรดถ่าง จะส่งผลทำให้พอร์ตขาดทุนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เราสามารถใช้สูตรดังต่อไปนี้ได้

ตัวอย่าง

สมมติ BUY และ SELL XAUUSD ไว้อย่างละ 1.5 LOT หากสเปรดถ่างขึ้น 500 Point จะทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่

การหาจำนวนสเปรดที่ถ่างเพิ่มขึ้นจากการล้างพอร์ต

ในบางครั้งเมื่อเทรดเดอร์ทำการ  Hedging ไว้ แต่ต่อมาปรากฏว่า พอร์ตโดน Stop Out ทำให้อาจเกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากเทรดเดอร์บางท่านยังเข้าใจว่า การ Hedging จะไม่ทำให้เกิดการล้างพอร์ต ซึ่งเราได้บอกไปข้างต้นแล้วว่าการถ่างของสเปรด อาจส่งผลทำให้พอร์ตของเทรดเดอร์ขาดทุนเพิ่มขึ้นได้ โดยหากพอร์ตของเราโดน Stop Out แม้ว่าจะทำการ Hedging ไว้ เราอาจใช้สูตรต่อไปนี้ ในการหาว่าจำนวนสเปรดถ่างมากขึ้นขึ้นเท่าไหร่ จนนำไปสู่การล้างพอร์ตดังกล่าว เพื่อที่เราจะสามารถทราบได้ว่าจำนวนสเปรดที่ถ่าง มีความสมเหตุสมผลหรือไม่

ตัวอย่าง

สมมติ BUY และ SELL XAUUSD ไว้อย่างละ 1.5 LOT หาก Equity ตอนเช็คล่าสุดอยู่ที่ USD 500 ต่อมาปรากฏว่าพอร์ตโดน Stop Out อยากรู้ว่าสเปรดต้องถ่างเท่าไหร่ ถึงทำให้พอร์ตโดน Stop Out

สรุป

การ Hedging คือการออกออเดอร์ BUY และ SELL ในสินค้าเดียวกัน โดยจะเป็นการช่วยให้พอร์ตไม่ให้ขาดทุน และ กำไร เพิ่มขึ้นจากการเพิ่ม และ ลดลงของราคา อย่างไรก็ตาม การ Hedging  จะทำให้เทรดเดอร์มีความเสี่ยงจากการถ่างของสเปรด ทำให้เทรดเดอร์ต้องระมัดระวังในการใช้กลยุทธ์ดังกล่าว

*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด

thailand

Recent Posts

ประกาศสำคัญ: ประกาศลดขนาดการแสดงข้อมูลย้อนหลังในบัญชี Cent บนเซิร์ฟเวอร์ Live 1, Live 2 และ Live 4

เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ เพื่อให้ลูกค้าได้ยกระดับประสบการณ์เทรดให้ดียิ่งขึ้น เราจะมีการกระชับการแสดงข้อมูลย้อนหลังในบัญชี Cent ทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์ MT4 Live 1 server (STARTRADERFinancial-Live), Live 2 server (STARTRADERFinancial-Live2) และ…

2 days ago

เจาะลึก Call vs Put Option: เครื่องมือลงทุนอัจฉริยะที่คุณควรรู้!

เคยซื้อประกันโทรศัพท์หรือสั่งจองเครื่องเล่นเกมล่วงหน้าบ้างไหม? เชื่อหรือไม่ แนวคิดเหล่านี้คล้ายกับการซื้อขายออปชันมาก มาดูกันชัดๆ การซื้อขายออปชันอาจดูซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วก็เป็นเพียงอีกวิธีหนึ่งในการเดิมพันการเคลื่อนไหวของตลาด จินตนาการถึงเครื่องมือที่ช่วยให้คุณทำกำไรได้ไม่ว่าราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง นั่นคือสิ่งที่ออปชันสามารถทำได้ — ถึงแม้ว่าประมาณ 30 ถึง 35% ของออปชันจะหมดอายุโดยไม่มีมูลค่า…

2 days ago

ประกาศสำคัญ: เปิดตัวคู่เงินฟอเร็กซ์ใหม่

เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ เรามีความยินดีที่จะประกาศว่า STARTRADER จะเปิดตัวคู่เงินฟอเร็กซ์ใหม่ในวันที่ 21 เมษายน 2025  เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ลงทุนที่หลากหลายมากขึ้นในพอร์ต โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่: สัญลักษณ์คำอธิบายขนาดสัญญาล็อตขั้นต่ำล็อตสูงสุดเวลาซื้อขาย (GMT+3)USDILSUS dollar vs Israeli Shekel100000 0.01100จันทร์-พฤหัส: 00:01-23:58 ศุกร์: 00:01-23:57 *วันที่และเวลาที่ระบุคือ GMT+3 (เวลาของเซิร์ฟเวอร์ MT5)  ขอเรียนให้ทราบว่าข้อมูลด้านบนอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดอ้างอิงตาม MT4/MT5 เพื่ออัปเดตข้อมูลเสมอ …

3 days ago

New Rules for Pending and Stop Orders

Dear Valued Client, We are pleased to inform you that STARTRADER has updated the order…

4 days ago

ประกาศสำคัญ: ประกาศลดขนาดการแสดงข้อมูลย้อนหลังในบัญชี Cent บนเซิร์ฟเวอร์ Live 1 และ Live 4

เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ เพื่อให้ลูกค้าได้ยกระดับประสบการณ์เทรดให้ดียิ่งขึ้น เราจะมีการกระชับการแสดงข้อมูลย้อนหลังในบัญชี Cent ทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์ MT4 Live 1 (STARTRADERFinancial-Live) และ Live 4 (STARTRADERFinancial-Live4) ในวันที่ 19…

1 week ago

ประกาศอัปเกรดพอร์ทัลลูกค้าและแพลตฟอร์ม MT

เรียนลูกค้า: เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์เทรดที่ดียิ่งขึ้น STARTRADER จะมีการอัปเกรดระบบพอร์ทัลลูกค้าและแพลตฟอร์ม MT ตามกำหนดการดังต่อไปนี้: พอร์ทัลลูกค้า การอัปเกรดจะเริ่มตั้งแต่เวลา 04:00 (GMT+3) ในวันที่ 19 เมษายน 2025 และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันเดียวกัน…

1 week ago